

(20 พฤษภาคม 2025) ประเทศญี่ปุ่น : มร.โทชิฮิโระ มิเบะ CEO Honda Global เปิดเผยว่า “นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Honda ในปี 2021 เราได้เดินหน้าตามวิสัยทัศน์อย่างต่อเนื่องในการมอบความสุขและเสรีภาพในการเดินทางให้กับผู้คนทั่วโลกอย่างยั่งยืน”
“อย่างที่ทุกท่านทราบ Honda เป็นบริษัทด้านการเคลื่อนที่แบบครบวงจร ที่มอบความสุขในการเดินทางให้กับลูกค้าทั่วโลกผ่านผลิตภัณฑ์และบริการด้านการเคลื่อนที่หลากหลายประเภท ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ ผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์ และอากาศยาน”
“เพื่อให้สามารถมอบความสุขในการเดินทางได้อย่างยั่งยืน Honda จึงให้ความสำคัญสูงสุดกับการดำเนินงานในด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย”
สำหรับรายละเอียดการแถลงวิสัยทัศน์ “2025 Business Briefing” ในครั้งนี้ ทีมงาน ISPEED ขอสรุปย่อยข้อมูลออกมาดังนี้

● HONDA ตั้งเป้าหมายการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และกิจกรรมองค์กร รวมถึงการลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 และตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้
● Honda ได้ประกาศเป้าหมายต่อสาธารณชนในการเพิ่มสัดส่วนยอดขาย EV และ FCEV* (รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน) ให้เป็น 100% ทั่วโลกภายในปี 2040
● สำหรับการดำเนินตามกลยุทธ์การปรับโครงสร้างครั้งนี้อย่างเป็นระบบ ภายในปี 2030 Honda มุ่งมั่นขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้ายอดขายรถยนต์รวมให้สูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 3.6 ล้านคัน โดยมีเป้ายอดขายรถ HEV อยู่ที่ 2.2 ล้านคัน
● Honda มอง ปัจจุบันความต้องการรถยนต์ไฮบริด (HEV) ยังคงอยู่ในระดับสูง ทางบริษัทฯ จึงเตรียม รถยนต์ HEV เจเนอเรชันถัดไป ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป
● คาดการณ์ว่าความต้องการรถ HEV จะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2030*
● HONDA กำลังพัฒนา ADAS รุ่นถัดไป ซึ่งสามารถช่วยผู้ขับขี่ในการเร่งและควบคุมพวงมาลัยตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีผู้ใช้ถนนหลากหลายประเภท เช่น คนเดินเท้าและผู้ขี่จักรยาน
● ระบบ ADAS รุ่นถัดไปของ HONDA จะสามารถประเมินสภาพแวดล้อมรอบรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคาดการณ์พฤติกรรมผู้ร่วมใช้ถนน เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตัดสินใจได้อย่างปลอดภัยโดยเฉพาะในพื้นที่ซับซ้อนอย่างในเขตเมือง
● Honda มอง ..ปัจจุบันในตลาดยานยนต์ทั่วโลก เทคโนโลยี ADAS รุ่นถัดไปมักถูกใช้ในรถยนต์ EV และ PHEV รุ่นไฮเอนด์เท่านั้น เนื่องจากมีข้อจำกัดทางเทคนิค เช่น ข้อจำกัดด้านแหล่งจ่ายพลังงาน
● แต่ระบบไฮบริดแบบเต็มรูปแบบของ Honda ก็มีข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีที่สามารถเอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้ได้ โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถบริหารจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง
● จากแนวคิด M-M ของฮอนด้า ซึ่งมุ่งเน้นการเพิ่มพื้นที่ให้ผู้โดยสารสูงสุด และลดพื้นที่ที่ใช้สำหรับชิ้นส่วนกลไก เราจะลดผลกระทบจากการติดตั้งอุปกรณ์ ADAS ต่อพื้นที่ภายในห้องโดยสารและการออกแบบตัวรถให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้เราสามารถติดตั้งระบบ ADAS รุ่นถัดไปในรถยนต์ขนาดเล็กได้
● ในอนาคตอันใกล้ Honda วางแผนจะเปิดตัวในอเมริกาเหนือและญี่ปุ่นราวปี 2027 รวมถึงในกลุ่ม HEV ซึ่งผู้ผลิตรายอื่นยังไม่สามารถนำเสนอได้
● นอกเหนือจากการติดตั้งระบบ ADAS รุ่นถัดไปในรถยนต์หลากหลายรุ่นแล้ว Honda ยังพร้อมพัฒนาระบบไฮบริด e:HEV ที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว และแพลตฟอร์มอื่นๆในทุกมิติ

● และเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนของรถยนต์ไฮบริด (HEV) Honda กำลังมุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุนในอนาคต โดยเฉพาะในส่วนของชิ้นส่วนสำคัญของรถ HEV เช่น แบตเตอรี่และมอเตอร์
● ด้วยการร่วมมือกับซัพพลายเออร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และการใช้ชิ้นส่วนร่วมกันในจำนวนมากขึ้น โดยตั้งเป้าลดต้นทุนของระบบไฮบริดรุ่นถัดไปให้ได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับรุ่นที่ติดตั้งในรถยนต์ปี 2018
● Honda มอง ตลาดรถยนต์อเมริกาเหนือ เป็นสนามรบหลักของรถ HEV โดยเตรียมนำเสนอรถ HEV หลากหลายรุ่นในอเมริกาเหนือ ● ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรถยนต์ขนาดใหญ่ คาดเริ่มตั้งแต่ปี 2027 บริษัทฯจะยกระดับความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ พร้อมเปิดตัวรถ HEV จำนวน 13 รุ่นทั่วโลก

● และเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจรถยนต์ของ Honda โลโก้ H-Mark ใหม่จะถูกใช้ ไม่เพียงแค่กับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงรถยนต์ไฮบริดหลัก (H-EV) ที่จะเปิดตัวตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไปด้วย