MOTOR SHOW 2023 ประกาศความพร้อม เตรียมส่งทัพรถใหม่ รถ EV ร่วมงานเต็มพิกัด

บริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ประกาศความพร้อมการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ชูแนวคิด “COLORFUL EXPERIENCE ประสบการณ์ครบทุกสีสัน” ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ความเป็นผู้นำด้านงานจัดแสดงรถยนต์ ค่าย รถยนต์-รถจักรยานยนต์มากกว่า 40 แบรนด์ ยังมั่นใจตอบรับเข้าร่วมงานพร้อมนำยนตรกรรม จากเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเข้าร่วมจัดแสดงเต็มพื้นที่ โดยการจัดงานจะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 เปิดเผยว่า งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 (The 44th Bangkok International Motor Show 2023) จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “COLORFUL EXPERIENCE ประสบการณ์ครบทุกสีสัน” เพื่อสื่อถึงการสร้างประสบการณ์อันหลากหลาย ผ่านเทคโนโลยี แห่งโลกยานยนต์ที่ยังคงพัฒนาอย่างไม่มีวันสิ้นสุด โดยเฉพาะกับรถพลังงานไฟฟ้าที่กำลังจะ นำพาวิถีชีวิตแห่งการเดินทางในยุคใหม่มาสู่ทุกคน

งานบางกอก

อินเตอร์เนชั่นแล มอเตอร์โชว์ ยังคงเป็นงานจัดแสดงยานยนต์ที่

บริษัทผู้ผลิต ผู้จำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และผู้ผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมยานยนต์ นำ ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าร่วมจัดแสดงมาอย่างยาวนาน โดยในการจัดงานประจําปี 2566 ค่ายรถยนต์-รถจักรยานยนต์ นราแสดงความจำนงค์เข้าร่วมงานมากกว่า 40 พบ รนด์ เต็มพื้นที่การจัดงานกว่า 170,960 ตารางเมตร แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและ

ความสำคัญของงานงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแล มอเตอร์โชว์ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังตอกย้ำ ภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำในการจัดงาน Exhibition ด้านยานยนต์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผู้บริโภคให้ความไว้วางใจมายาวนานมากกว่า 44 ปี

สำหรับทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในปี 2566 ในภาพรวมของ อุตสาหกรรมเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ สถานการณ์การขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิตมี สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในปีนี้หน่วยงานภาครัฐประ เป็นว่า การผลิตรถยนต์และ รถจักรยานยนต์ของประเทศไทย จะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นหากเทียบกับปีที่ผ่านมา ด้านสภาวะ เศรษฐกิจก็มีแนวโน้มจะกลับมาเติบโตได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าจะส่งผลให้ตลาดรถยนต์กลับมา คึกคักอีกครั้ง

โดยเฉพาะกับตลาดรถพลังงานไฟฟ้าที่คาดว่าจะมีตัวเลขการเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา

เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นกับเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนวิถีใหม่ที่จะ

เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการขับขี่และการเดินทางประกอบกับการสนับสนุนจากภาครัฐใน

หลายด้าน ทั้งการส่งเสริมมาตราการทางด้านภาษี ส่งผลให้มีราคาจำหน่ายที่ผู้บริโภคสามารถ

เข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ไปจนถึงการสนับสนุนในส่วนของการผลิตเพื่อใช้งานภายในประเทศ

และการผลิตเพื่อส่งออกสู่ทั่วโลกในอนาคต จึงเป็นอีกครั้งที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล

มอเตอร์โชว์ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยการนำเสนอรถยนต์

ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นภานในงานครั้งนี้

ทั้งนี้ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ยังคงได้รับความร่วมมือ จาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย, สมาคมวิศวะกรรม ยานยนต์ไทย, สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย, สมาคมระบบขนส่งการจราจรอัจฉริยะ, และ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระ บรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.) และบริษัท อิมแพ็ค เอ็ก ซี ซัน เมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นอย่างดีในการจัดงาน

คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการตลาดและการขาย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และรองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่น

แนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 เปิดเผยว่า แม้ทิศทางและกระแสของการซื้อ-ขายผ่านช่องทาง ออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญในปัจจุบันและมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ส่งผล ต่อแนวทางการทำตลาดและการจัดกิจกรรมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงที่ผ่านมาเป็น อย่างมาก

แต่การที่ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 40 แบรนด์ ยังคงนำ ผลิตภัณฑ์เข้ามาร่วมจัดแสดงเต็มพื้นที่การจัดงานกว่า 170,960 ตารางเมตร น่าจะแสดงให้เห็น ได้ว่างาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ยังคงมีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นความ ต้องการของผู้บริโภคและช่วยสนับสนุนการซื้อ-ขายในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้เป็นอย่างดี

เป้าหมายของการจัดงานในปีนี้ ทางผู้จัดตั้งเป้าการเติบโตไว้ประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ ทั้งในส่วนของจำนวนผู้เข้าชมงาน และยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ภายในงาน เนื่องมาจากปัจจัยบวกในหลายด้าน ทั้งการผ่อนปรนมาตรการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโค วิต-19 ทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ไปจนถึง การ เข้ามาของรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ทั้งในกลุ่มของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทำให้เชื่อมั่นว่า การจัดงานในปีนี้จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

“ผมมั่นใจว่าการจัดงานในปีนี้ จะเป็นอีกครั้งที่ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์

โชว์ จะแผ่ขยายศักยภาพการจัดงานๆ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ และพัฒนาธุรกิจยานยนต์ของ

ประเทศไทย ให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง จากเม็ดเงินลงทุนจานวนมหาศาล ในการสร้างงาน ไม่ว่าจะเป็น

เรื่องของ การออกแบบ การก่อสร้าง และการจ้างงานในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่อง จะสร้างเม็ดเงิน

เสริมรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายในประเทศ ให้เติบโตไม่ต่ากว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่ง

ส่งผลดีกับกลุ่มผู้ประกอบการ ทั้งในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจที่

เกี่ยวเนื่องทั้งหมด”

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้จัดงาน ยังเชื่อมั่นว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีความพิเศษ และแตกต่าง การทำตลาดในช่องทางออนไลน์สำหรับสินค้าประเภทรถยนต์และจักรยานยนต์ จะเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคต แต่ยังคงต้องใช้เวลาในการปรับตัวเพื่อรองรับวิถีชีวิตใหม่ ด้วยเหตุ

The

MOTOR SHOW

Grandpri Xpectru

งานบางกอก มอเตอร์โชว์ จึงยังคงไว้ซึ่งความพิเศษอันเป็นจุดเด่นสำคัญ คือ นอกจากจะเป็น งานจัดแสดงยนตรกรรมล้ำสมัยแล้ว ยังเป็นงานที่สร้างบรรยากาศให้เกิดความคึกคักมากยิ่งขึ้น ผู้บริโภคที่เข้าชมงานยังมีโอกาสในการตัดสินใจและมีทางเลือกหลากหลายภายในงานเดียว ซึ่ง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและยอดขายในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในช่วงการจัดงานและหลังจบ งานได้เป็นอย่าง

สําหรับราย ด บริษัทรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่

แนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ได้แก่ Ford, BMW, MINI, Mercedes-Benz, Great Wall Motors,

Rolls-Royce, Aston Martin, Maserati, Peugeot, Jeep, Toyota, Lexus, BYD, MG,

Mazda, Suzuki, Isuzu, Hyundai, Hyundai Bus & Truck Audi, Honda, Mitsubishi

Motors, Nissan, NETA, Volvo, Porsche, Bentley, Kia, Subaru, Thai Honda

Manufacturing, Suzuki Motosales, Yamaha, BMW Motorrad, Harley-Davidson,

Ducati, Triumph,, Alpha Volantis ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้น สามารถติดตามได้

ในเว็ปไซต์ของบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ www.motorshow.in.th

คุณอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิต บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) และรองประธานการจัดงานฯ กล่าวว่า ภายในงาน นอกจากรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และของตกแต่งที่มีให้เลือกชม เลือกซื้อทางผู้จัดยังได้เตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ ไว้รองรับผู้เข้าชมอย่างมากมาย โดยในปีนี้เรายังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมทางด้าน e-Sport อย่าง ต่อเนื่อง เพื่อตอบรับความนิยมที่ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด 2-3 ปี ที่ผ่าน

ในปีนี้จะเป็นการกลับมาจัดงาน e-Racing อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากต้องหยุดการจัด กิจกรรมไปตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส โควิค-19 ด้วยการจัดพื้นที่ใกล้กับทางเชื่อมของ The Portal กับชาเลนเจอร์ 1 ที รองรับการจัดการแข่งขัน Gran Turismo Pro Series Thailand Championship 2023 ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ที่มีการจัดการ แข่งขันอยู่เป็นประจำและสม่ำเสมอ โดยการจัดงานในวันที่ 25 มีนาคม 2566 และวันที่ 1 เมษายน 2566 จะเป็น 2 สนามหลักในการเป็นคะแนนของบรรดานักแข่งอาชีพ โดยจะใช้เกม

Gran Turismo 7 เป็นครั้งแรกในการแข่งขัน ซึ่งสอดคล้องกับการแข่งขันในระดับโลกที่การ แบ่งขัน World Series ชิงแชมป์โลกได้ใช้ Gran Turismo 7 ในการแข่งขันในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ยังคงได้รับความร่วมมืออันดี จาก Polyphony Digital Inc. ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เกมส์ Gran Turismo 7 อนุญาตให้เรานำ Gran Turismo มาใช้จัดการแข่งขันได้อย่างถูกต้อง การจัดการแข่งขันในครั้งนี้เราจัดให้มี เครื่อง Simulator ทั้งหมด 8 เครื่องด้วยกัน เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้กับการแข่งขันและให้ผู้ชม ได้รับอรรถรสได้อย่างเต็มที่ในบริเวณงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปีนี้

คุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านพัฒนาธุรกิจบริษัท กรังด์ ปริฯ และรองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ในฐานะผู้จัดงาน ได้มีการพัฒนารูปแบบ การให้บริการใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้เข้าร่วมงาน และผู้เข้าชม งานได้รับความสะดวก หรือ ประสบการณ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี digital เข้ามาเป็น ตัวช่วยไม่ว่าจะเป็นช่องทางการจำหน่ายบัตร การจัดเก็บข้อมูลผู้เข้าชมงาน หรือ การนำเสนอ Virtual Motor Show ควบคู่การจัดงานแบบ On ground ในช่วงสถานการณ์ โควิค-19 และ

งานบางกอก มอเตอร์โชว์ ปีนี้ ทางผู้จัดงานฯ ยังได้จับมือร่วมกันกับ Tik Tok Thailand และ Media Intelligence หรือ Mi ในการทำ Tiktok Motor Show เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีช่องทางในการเข้าถึงคอนเทนต์ที่น่าสนใจภายในงานเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีกิจกรรม Hashtag Challenge ให้ได้ร่วมสนุกกันอีกด้วย

พร้อมทั้งได้พัฒนาแพลทฟอร์ม LINE Official Account หรือ Line OA ขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกในการซื้อบัตร หรือ ใช้ในการลงทะเบียนเข้างานในครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังเป็นการจัดทำฐานข้อมูลแบบ “One Data” ขึ้น เพื่อวิเคราะห์ พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้บริษัทฯ นำมาปรับปรุงสิ่งที่จะ นำเสนอต่อผู้เข้าชมงานให้มีความน่าสนใจได้ดียิ่งขึ้น นับเป็นการเพิ่มช่องทางการ

สื่อสารใหม่ๆ ระหว่างบริษัทฯ กับผู้บริโภคในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และรูปแบบการ ให้บริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Auto และ กลุ่ม Lifestyle เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ในอนาคต

สําหรับกิจกรรมแคมเปญพิเศษแจกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สำหรับผู้ที่ซื้อบัตรเข้า ร่วมชมงานและจองรถยนต์ทุกรุ่นภายในงานยังคงถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะแบ่งออกเป็น 2

ส่วนดังนี้

1.ซื้อบัตรเข้าชมงานพร้อมตอบแบบสอบถาม

ดังนี้

หุ้นรับรางวัลเป็น

รถยนต์และรถจักรยานยนต์

รางวัลที่ 1 รถยนต์ไฟฟ้า NETA V จานวน 1 คัน มูลค่า 549,000 บาท

• รางวัลที่ 2 รถจักรยานยนต์ Kawasaki KLX230 มูลค่า 145,200 บาท รางวัลที่ 3 รถจักรยานยนต์ Yamaha Fazzio มูลค่า 52,323 บาท

รางวัลที่ 4 รถจักรยานยนต์ Honda Scoopy Urban มูลค่า 48,800 บาท

รางวัลที่ 5 รถจักรยานยนต์ Suzuki Address 125 มูลค่า 46,500 บาท

2.เมื่อผู้เข้าชมจองรถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 44 ลุ้นรับรางวัลเป็นรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ดังนี้

• ลุ้นรับรถยนต์ MGA4 Electric มูลค่า 869,900 บาท

• ลุ้นรับรถจักรยานยนต์ Royal Enfield Classic 350 มูลค่า 139,900 บาท

งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 จัดขึ้นทีชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม-2 เมษายน 2566 โดยเปิดให้เข้าชมงานเวลา

12.00-22.00น ราคาบัตรเข้าชมงาน 100 บาท

กําหนดการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44

• วันแขกพิเศษ V.I.P Day: วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2566 (เวลา 12.00-20.00 น.)

วันสื่อมวลชน Press Day: วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2566 (เวลา 09.59-18.00 น.)

• วันสำหรับประชาชนทั่วไป: วันพุธที่ 22 มีนาคม-2 เมษายน 2566 (รวมระยะเวลา 12 วัน)

วันธรรมดา เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น.

• วันหยุด เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.

สถานที่จัดงาน: อาคารชาเลนเจอร์ 1-3, อิมแพค เมืองทองธานี