พาชมกระบะ TOYOTA IMV-0 (Zero) SAFETY CAR ตัวเป็นๆ ที่สนามช้างฯ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2566

หลังจากโตโยต้าเปิดตัวรถต้นแบบ รถกระบะเอนกประสงค์ภายใต้ชื่อ “IMV-0 Concept” ภายในงาน “โตโยต้า ฉลองครบรอบการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบ 60 ปี” ล่าสุด กระบะ TOYOTA IMV-0 ได้ถูกนำมาใช้เป็นรถเซฟตี้คาร์ ในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ Toyota Gazoo Racing Motorsport 2022 สนามสุดท้าย ด้วยการนำขบวนรถปิกอัพ Hilux Revo Racing Mania : Parade พร้อมร่วมอวดโฉมในรายการ Idemitsu 1500 Super Endurance 2022 ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

TOYOTA IMV-0 (Zero) นับเป็นรถกระบะเอนกประสงค์คอนเซ็ปต์อีกหนึ่งคัน ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากสำหรับแผนการทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะได้รับการเปิดตัวในช่วงกลางปี 2023 ที่จะถึงนี้ ..และเมื่อมีโอกาสได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงของ TOYOTA IMV-0 (Zero) ทีม iSpeedegazineจึงขอบุกไปคุยถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตัวรถ ((ถึงแม้ทีมวิศวกรจะตอบอะไรไม่ได้มาก)) แต่อย่างน้อยก็ได้ข้อมูลมาฝากตามนี้…
TOYOTA IMV-0 (Zero) ได้รับการออกแบบภายใต้พื้นฐานของรถกระบะ Hilux Revo ตอนเดี่ยว โดยเครื่องยนต์นั้นทีมวิศวกรไม่สามารถให้ข้อมูลได้เนื่องจากตัวรถยังเป็นเพียงรถคอนเซ็ปต์คาร์ แต่คาดการณ์ได้ว่าตัวเครื่องยนต์ น่าจะใช้รหัสเดียวกับที่บรรจุใน Hilux Revo ตอนเดี่ยวรุ่น Entry นั่นคือ ขุมพลังขนาด 2.4 ลิตร ดีเซล 2GD-FTV 4 สูบ ส่วนแรงม้านั้นก็คงราว ๆ เดียวกันอยู่ที่ 150 แรงม้า

โดยการนำเสนอกระบะ TOYOTA IMV-0 (Zero) ในครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทาง สำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน และอุตสาหกรรมขนาดกลางรวมถึงขนาดย่อม แน่นอนว่าเรื่องรูปร่างหน้าตาตอนเปิดตัวในงานโตโยต้า ฉลองครบรอบ 60th Annivesary นั้น ย่อมมีความแตกต่างจากตัวที่นำมาวิ่งโชว์ในงานแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ..เรามาดูกันสิว่า มีอะไรที่แปลกแตกต่างออกไป เสริมสวยอะไรลงไปบ้าง แล้วถูกใจผู้บริโภคชาวไทยบ้างมา..มาเม้าท์มอยกันค่ะ

สำหรับการออกแบบโครงสร้างตัวถัง ภาพรวมอาจดูเหมือนตัวเล็ก แต่เมื่อไปเจอคันจริงแล้ว..ขนาดดูย่อมกว่า Hilux Revo รุ่นปัจจุบันอยู่เล็กน้อย ส่วนรูปร่างหน้าตาของ TOYOTA IMV-0 (Zero) Safety Car ตัวที่อวดโฉมในสนามฯ ความเห็นส่วนตัวแล้ว คิดว่าปรับมาเยอะ ไม่ใช่เฉพาะแค่รูปร่างหน้าตาภายนอก แต่เครื่องยนต์คาดว่าน่าจะมีการปรับจูนเติมเทอร์โบมาด้วย ((ตื้ออยู่นาน..ทีมวิศวกรไม่ยอมหลุดปากบอกเลย และยังไม่ยืนยันว่าเป็นขุมพลังดีเซลหรือเบนซิน ขนาดความจุเท่าไหร่อย่างไร))

ดูทรงแล้วออกแนวรถตรวจการณ์ แต่งคิ้วทาปากเสริมด้วยพาร์ทตกแต่งสไตล์สปอร์ต เรซซิ่งนิดๆ ดูดุดันน่าคบหา เอาเป็นว่าเรามาเริ่มต้นกันที่กระจังหน้าสีดำด้าน เจาะช่องระบายอากาศที่บริเวณกริลหน้าแบบเรียบ ๆ ปะยี่ห้อ Toyota รับกับชุดโคมไฟหน้าทรงเหลี่ยม แยกชิ้นไฟเลี้ยวออกมาได้อย่างคมชัด ดีไซน์โดยรวมมาแนวๆ Daihatsu TAFT 660 G Turbo ฝากระโปรงหน้าดูเหลี่ยมสันยกสูงเน้นเส้นสายคมชัดยันแก้มข้างซ้ายและขวา เติมมือจับฝากระโปรงสีดำมานิดหล่อไปอีกแบบ ส่วนกันชนหน้าเน้นชิ้นงานสีดำขนาดใหญ่ดูแกร่งบึกบึนเสริมหล่อด้วยสเกิร์ตหน้าสีขาวดูเข้ากั๊นเข้ากัน

และสำหรับหลายๆ ท่านที่เดาทางการร่วมงานกันระหว่างโตโยต้ากับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ บอกเลยสามารถเดาทางได้ไม่ยาก..ดูได้จากสติ๊กเกอร์ที่แปะอยู่บนตัวรถเลยจ้า ตั้งแต่ TCD ASIA หรือ Toyota Customizing & Development, ARTO, CUBE RYDER ผู้ผลิตตู้บรรทุกสินค้า, ECU SHOP, CARRY BOY, THAIRUNG, TADANO, MKC-Mongkolchai Body ฯลฯ พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเหล่านี้อาจมีส่วนร่วมในโครงการ TOYOTA IMV-0 (Zero) ในอนาคตก็เป็นได้

มาว่ากันที่ด้านข้างตัวถังรถกันบ้าง TOYOTA IMV-0 (Zero) Safety Car ตัวกรอบประตูคาดว่าน่าจะเป็นวัสดุไฟเบอร์ขึ้นรูป สีดำมือจับเปิดประตูอยู่ที่ขอบ มีห่วงดึงเปิดประตูมาให้ กรอบกระจกบานประตูคว้านเล่นดีไซน์ กระจกมองข้างทรง Craft Square ล้อ Lenso รัดด้วยยาง YOKOHAMA ADVAN NEOVA ขนาด 235/45R17

ขณะที่ด้านหลังหัวเก๋งคว้านกระจกบังลมหลังมาให้ 1 กรอบกรุบกริบ เติมด้วยสปอยเลอร์ด้านข้างซ้าย-ขวา และที่ท้ายรถขนาดใหญ่แปะสติ๊กเกอร์ TOYOTA สีแดงมาดูเข้ากัน บริเวณท้ายรถแอบมีชิ้นงานตกแต่งครีบดิฟฟิวเซอร์ขั้นระหว่างไฟเลี้ยว ไฟเบรก และไฟถอย พร้อมหูลาก Sparco ใต้ท้องรถจัดชุดโช้คกระบอกแดงจาก TRD 4 ต้น (แอบโหลดตัวถังลงนิดเพื่อใช้วิ่งในสนามแข่งแบบหล่อ)


ภายในห้องโดยสารของ TOYOTA IMV-0 (Zero) Safety Car เติมจอแสดงผลแบบเฉพาะ เสริมด้วยเบาะ BRIDE ทรงหูกวาง 2 ตัว เบล์ทเป็นของ SABELT 6 จุด พวงมาลัยก้านยกของ SPACO ชุดแอร์มาแบบเดิม ๆ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ


เอาเป็นว่าเก็บภาพสวยๆ มาฝากกันไปก่อน สำหรับข้อมูลตัวรถคงต้องรอความชัดเจนจากทางโตโยต้าสนับสนุนข้อมูลมาอีกครั้ง แน่นอนว่ามีโอกาสได้ยลโฉมกันในเร็วๆ นี้แน่นอน แต่จะมาให้รูปร่างหน้าตาแบบนี้หรือไม่นั้น รอลุ้นกันไปยาวๆ จ้า