ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่
ปราดเปรียว โดดเด่น และแตกต่าง

  • ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ จะผลิตที่โรงงานฟอร์ดในประเทศไทยและแอฟริกาใต้
    โดยจะเริ่มผลิตในปี พ.ศ. 2565
  • ฟอร์ด เรนเจอร์ เปรียบเสมือนน้องชายของ F-150
  • กระจังหน้าคมเข้มดุดัน มาพร้อมไฟหน้าใหม่ และไฟ DRL รูปตัว C
  • ระยะล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร และฐานล้อยาวขึ้น 50 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับเรนเจอร์รุ่นก่อน
  • ไฟท้ายที่มีการออกแบบสอดรับกับไฟหน้าที่เป็นรูปตัว C
  • ขึ้นรถด้านข้างไม่ต้องปีนล้อหยิบของกันอีกต่อไป เพราะมีบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายมาให้ด้วย
  • กว้างขวางขึ้น ช่องแอร์มีการออกแบบคล้ายกับกระจังหน้า
  • ปรับให้มือจับประตูต่ำลง เพื่อให้ระยะระหว่างมือจับประตูกับสวิตช์เปิด-ปิดหน้าต่างและที่วางแขนเป็นเส้นตรงมากขึ้นและใช้งานง่ายขึ้น
  • จอกลางแนวตั้งแบบสัมผัสความคมชัดสูงขนาด 10.1 นิ้ว และ 12 นิ้ว
  • เกียร์ Electronic Shifter มีหัวเกียร์สั้นมากกว่าเสริมภาพลักษณ์ความเป็นรถกระบะเทคโนโลยีสูง
  • มีช่องแอร์ด้านหลังมาให้

24 พฤศจิกายน, กรุงเทพ : สมการรอคอยจริงๆ สำหรับการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ที่มีการปรับโฉมภายนอกใหม่หมดจดดูปราดเปรียว ดุเข้ม และแกร่งขึ้นไปอีกขั้น ส่วนภายในห้องโดยสารหรูหราเหนือระดับด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีล้ำ ๆ พร้อมตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบ และนี่คือผลลัพธ์จากการทำการวิจัยตลาดเพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกในการพัฒนารถกระบะคุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง..

การออกแบบภายนอก

การออกแบบภายนอกของเรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ อยู่ภายใต้หลักการสำคัญ 2 ข้อ คือ การมองไปยังอนาคตข้างหน้า และการทำให้รถคันนี้ ‘เกิดมาแกร่ง’

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มีรูปลักษณ์ที่ดุดันและโฉบเฉี่ยว ด้วยภายนอกที่สะท้อนดีเอ็นเอรถกระบะระดับโลกของฟอร์ด ตั้งแต่กระจังหน้าใหม่ที่โดดเด่น และไฟหน้าใหม่รูปตัว C อันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีเส้นสายบริเวณด้านข้างของตัวรถเชื่อมต่อไปยังซุ้มล้ออย่างโดดเด่น เพิ่มความรู้สึกที่มั่นคง และถือเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ด เรนเจอร์ มีไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี ส่วนด้านหลังของรถได้รับการออกแบบมาให้สอดรับกับการกราฟฟิคด้านหน้า ห้องโดยสารได้รับการยกระดับให้เหมือนกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมากขึ้นด้วยการเลือกใช้วัสดุที่หรูหรา ให้สัมผัสนุ่มสบาย อัดแน่นด้วยระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบสัมผัสแนวตั้ง และระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4 ของฟอร์ด

รุ่นย่อยของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ที่เผยโฉม ได้แก่ ฟอร์ด เรนเจอร์ สปอร์ตที่พร้อมลุยได้ในแบบสมบุกสมบัน และฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรคสำหรับผู้รักการผจญภัย สะท้อนความต้องการด้านการใช้งานและความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย

“ลูกค้ารู้ดีว่าพวกเขาชอบอะไรและจะใช้เรนเจอร์ทำอะไรบ้างในชีวิตประจำวัน เราจึงต้องผสานฟีเจอร์ที่ลูกค้าต้องการและให้ความสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าเรนเจอร์จะเป็นรถกระบะดึงดูดผู้ใช้งาน มีความร่วมสมัย และตอบโจทย์การใช้งานแบบอเนกประสงค์ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยกตัวอย่างเช่น บันไดเหยียบข้างกระบะท้าย ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการนำข้อมูลและความคิดเห็นของลูกค้ามาพัฒนาการออกแบบ เพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าถึงพื้นที่ท้ายกระบะได้สะดวกขึ้น และลูกค้ายังต้องการพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่กว้างขึ้นด้วย”

หลังจากศึกษาข้อมูลเชิงลึกและข้อเสนอแนะต่างๆ จากลูกค้าอย่างถี่ถ้วนแล้ว ทีมออกแบบจึงเริ่มนำข้อมูลมาถ่ายทอดเป็นรูปภาพเพื่อใช้ในการอ้างอิงและใช้เป็นแรงบันดาลใจ หลังจากนั้นทีมจึงเริ่มสเกตช์ภาพรถลงสมุดและแท็บเล็ตที่ใช้สำหรับงานดีไซน์ เพื่อเริ่มต้นการออกแบบ

“เราให้อิสระและไม่ตีกรอบความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบ บางคนได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สถาปัตยกรรม ไปจนถึงงานศิลปะ เรามองว่าเรนเจอร์เป็นเหมือนน้องชายของ F-150 มีกลุ่มลูกค้าที่ติดตามพัฒนการของรถรุ่นนี้มาตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา เราจึงเน้นไปการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เรนเจอร์ได้รับความนิยมทั่วโลก และขณะเดียวกัน เราก็สรรหาความแปลกใหม่ในการออกแบบด้วย”

ความเป็นปราดเปรียวของตัวรถเป็นสิ่งหนึ่งที่ฟอร์ดตั้งใจรังสรรค์ ด้วยการออกแบบผิวสัมผัสที่สื่อถึงความแข็งแรง เป็นมัดกล้าม กระจังหน้าดุดัน ไฟหน้าใหม่รูปตัว C ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน กระจังหน้าแนวนอนแถวบนที่สะดุดตา ไปจนถึงซุ่มล้อที่โดดเด่น ลายเส้นด้านข้างที่สื่อถึงความแข็งแกร่ง และโลโก้ตัวประทับ RANGER ขนาดใหญ่บริเวณฝาท้าย ทั้งหมดล้วนเป็นส่วนประกอบด้านการออกแบบที่สื่อถึงความมั่นใจและสมรรถนะของรถ ด้านหลังมาพร้อมไฟท้ายที่มีการออกแบบสอดรับกับไฟหน้าที่เป็นรูปตัว C ระยะล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 50 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับเรนเจอร์รุ่นก่อนหน้า ทำให้ทีมออกแบบวางล้อหน้าเข้ามุมได้มากขึ้น เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงของตัวรถ

“เราตั้งต้นด้วยสิ่งที่เรารักจากเรนเจอร์รุ่นก่อนๆ และนำมาพัฒนาเพื่อการใช้งานในอนาคต จนได้รูปโฉมใหม่ที่โดดเด่นแต่ยังคงเอกลักษณ์ในความเป็นรถกระบะพร้อมลุยสุดเอนกประสงค์ตามแบบฉบับของเรนเจอร์ที่ลูกค้าชื่นชอบ เราตื่นเต้นมากที่จะเผยโฉมให้คนทั่วโลกได้เห็นฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่”

เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมสีภายนอกสุดเร้าใจ โดยนำเสนอตัวเลือกสีที่ทันสมัย อยู่ในกระแสความสนใจ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้า

การออกแบบภายใน

ภายในของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ โดดเด่นด้วยห้องโดยสารทันสมัย อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่สะดวกต่อการใช้งาน มีพื้นที่ที่กว้างขวาง หรูหรา และตอบโจทย์การใช้งานได้หลายรูปแบบ โดยนักออกแบบได้เน้นดีไซน์ภายในที่กลมกลืน เพื่อเสริมรูปลักษณ์ภายนอกที่สะท้อนความทนทานและดุดัน

วัสดุที่นุ่มต่อการสัมผัสและการตกแต่งอย่างปราณีตช่วยยกระดับบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ในขณะที่แผงหน้าปัดแบบใหม่ได้รับการออกแบบทอดตัวยาวจากฝั่งซ้ายถึงฝั่งขวาขยายพื้นที่ให้ดูกว้างขวางยิ่งขึ้น การออกแบบภายในบางส่วนยังสอดรับกับการออกแบบภายนอก อย่างช่องแอร์ที่มีการออกแบบคล้ายกับกระจังหน้า และพื้นผิวภายนอกบางส่วนที่นำมาปรับใช้กับพื้นที่ภายใน

หน้าจอแบบสัมผัสความคมชัดสูงขนาด 10.1 นิ้ว และ 12 นิ้ว ติดตั้งตรงกลางสอดรับกับแผงหน้าปัดดิจิทัล ลูกค้าชอบหน้าจอแนวตั้งมากกว่าแนวนอนเพราะมีพื้นที่เพียงพอสำหรับระบบนำทางด้านบนและเมนูอื่นๆ อย่างเช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิ หรือระบบความบันเทิงภายในรถ ให้อยู่ด้านล่างจอ

อีกหนึ่งชิ้นส่วนที่เกิดจากความเห็นของลูกค้าคือเกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter สำหรับเรนเจอร์รุ่นเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งก่อนหน้านี้ ฟอร์ดได้พัฒนาระบบเลือกเกียร์แบบแป้นหมุน แต่ลูกค้าชอบเกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter ที่มีหัวเกียร์สั้นมากกว่า เพราะช่วยเสริมภาพลักษณ์ความเป็นรถกระบะเทคโนโลยีสูง

นอกจากนี้ ทีมออกแบบยังปรับดีไซน์ขององค์ประกอบสำคัญภายห้องโดยสาร เช่น การออกแบบมือจับประตูให้สอดรับกับแผงคอนโซลที่ทอดตัวยาวจากฝั่งซ้ายจรดฝั่งขวา เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะจากลูกค้าให้เราปรับให้มือจับประตูให้ต่ำลง เพื่อให้ระยะระหว่างมือจับประตูกับสวิตช์เปิด-ปิดหน้าต่างและที่วางแขนเป็นเส้นตรงมากขึ้นและใช้งานง่ายขึ้น อุปกรณ์ภายในห้องโดยสารอีกหลายส่วนยังใช้วัสดุที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น มอบความรู้สึกหรูหราไปอีกขั้น

เบาะที่นั่งใหม่มาพร้อมกับหมอนรองโฟมแบบใหม่เสริมความมีสไตล์ น่านั่ง และให้ความสะดวกสบาย เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับพับราบได้ มีที่เก็บของใต้เบาะที่นั่ง และช่องแอร์ด้านหลังคอนโซลกลาง และยังมีพื้นที่เก็บของบริเวณประตูเพิ่มเติมสำหรับที่นั่งด้านหน้าและด้านหลังอีกด้วย

“ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ พร้อมสร้างนิยามใหม่ให้กับวงการรถกระบะ ในการเป็นสุดยอดรถกระบะคู่ใจที่พร้อมตอบโจทย์ทั้งสำหรับการทำงาน การเป็นรถครอบครัว และเป็นเพื่อนเดินทางในวันพักผ่อน” มร.แกรี โบส์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกิจการกลุ่มผลิตภัณฑ์ ประเภทรถกระบะระดับโลก กล่าว “ข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้าทำให้เราพัฒนาฟอร์ด เรนเจอร์ ที่เราเชื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ลูกค้าในการทำสิ่งที่ตัวเองรักได้มากกว่าเดิม ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่จะเป็นเพื่อนลุยไปกับคุณในทุกเส้นทาง”

ระบบส่งกำลัง ตอบสนองทุกการใช้งาน

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว และเทอร์โบคู่ 2.0 แบบสี่สูบ เครื่องยนต์เทอร์โบเดี่ยวมีสมรรถนะให้เลือกสองแบบ พร้อมส่งมอบกำลัง แรงบิด และการประหยัดน้ำมัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีความสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หรือผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบคู่มอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก สำหรับลูกค้าที่ต้องการกำลังที่แรงกว่า แต่ยังคงประหยัดเชื้อเพลิง

“เราทราบดีว่าลูกค้าของเราจะใช้งานฟอร์ด เรนเจอร์ สุดกำลังความสามารถของรถ เราจึงทดสอบรถด้วยวิธีเดียวกัน เราพยายามถึงที่สุดที่จะทำให้มั่นใจว่าฟอร์ด เรนเจอร์จะทำได้ทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ โดยการผ่านบทพิสูจน์ความแกร่งซ้ำแล้วซ้ำอีก” ปริติกา มหาราช ผู้จัดการโครงการฟอร์ด เรนเจอร์ กล่าว

ระบบเกียร์ในฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ยังได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น โดยมีตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด หรือธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

เสถียรภาพในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น

ฟอร์ดมุ่งมั่นในการพัฒนาเสถียรภาพในการขับขี่เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างกว้างขวางทั้งสำหรับการใช้ทำงาน การเป็นรถสำหรับครอบครัว และการเป็นเพื่อนคู่ใจในการเดินทางพักผ่อน วิศวกรของฟอร์ดจึงให้ความใส่ใจทุกขั้นตอนในการพัฒนา

“กลุ่มลูกค้าของเรามีหลากหลายมาก” เกรแฮม กล่าว “บางคนอาจเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมที่ต้องการยานพาหนะที่ช่วยทุ่นแรงในการทำงาน พวกเขาต้องการรถกระบะตอนเดียว ขับเคลื่อน 2 ล้อ และมีกระบะท้ายที่กว้างขวางสำหรับขนส่งสินค้า”

“อีกส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นนักผจญภัยขาลุยออฟโรดตัวยงที่สามารถนำฟอร์ด เรนเจอร์ไปท้าทายขีดจำกัดในการแข่งขันอย่าง King of the Hammers หรือ Dakar Rally ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ คันนี้พร้อมเป็นรถคู่ใจที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทั้งสองกลุ่ม และทุกๆ คนได้เป็นอย่างดี”

ทีมวิศวกรได้ขยับให้ล้อหน้าขึ้นมาด้านหน้าอีก 50 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มมุมเงย และปรับจูนช่วงหน้าให้รองรับการขับขี่แบบออฟโรดให้ดีขึ้น ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดด้วย นอกจากนี้ยังย้ายโช๊คหลังไปไว้ด้านนอกเพลาเพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารนั่งได้สบายขึ้นทั้งการขับขี่บนทางเรียบและออฟโรด ทั้งในการขนสัมภาระ หรือพาครอบครัวไปรับประทานอาหารเย็น

“สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ เจนเนอเรชันใหม่ เราได้เพิ่มการปรับจูนเพื่อมอบความเป็นที่สุดให้ลูกค้าถึงสองด้านด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็น ‘ขั้นกว่าของเกิดมาแกร่ง’ โดยมีทั้งสมรรถนะ ความสมบุกสมบัน และความทนทานที่รถกระบะฟอร์ดพึงมี รวมไปถึงความสะดวกสบายและประสบการณ์เสมือนรถเก๋ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟอร์ด เรนเจอร์นำเสนอให้ลูกค้าตลอดมา” เกรแฮม กล่าว

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจนเนอเรชันใหม่ มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก 2 ระบบ ได้แก่ ระบบเปลี่ยนเกียร์อิเล็กทรอนิกส์แบบ Shift-On-The-Fly และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบเต็มเวลา (set-and-forget mode) ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การขับขี่ของลูกค้าได้ในทุกสภาพถนน ทั้งยังมีอุปกรณ์ช่วยเหลือในการขับขี่ออฟโรดที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยตะขอเกี่ยวคู่หน้าที่กันชนหน้า

ภายในห้องโดยสารตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า

ลูกค้าฟอร์ดชอบห้องโดยสารภายในที่มีพื้นที่กว้างขวาง ทันสมัย รองรับการใช้งานได้หลากหลายทั้งใช้ทำงานและใช้เป็นรถของครอบครัว ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ จึงต้องทำหน้าที่เป็นทั้งห้องทำงาน และพื้นที่ส่วนตัวได้ในคราวเดียวกัน ด้วยฟีเจอร์อันชาญฉลาด ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารทันสมัย ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย และมอบพื้นที่เก็บของมากขึ้นกว่าเดิม

“เราทราบดีว่าลูกค้าต้องการห้องโดยสารที่มีทั้งความอัจฉริยะ ใช้งานได้หลากหลาย และยังให้ความรู้สึกสบาย เราจึงตั้งใจสร้างสรรค์ห้องโดยสารของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่พัฒนาขึ้นมาพิเศษ ประกอบกับพื้นที่จัดเก็บที่ออกแบบมาอย่างแยบยลและสวยงาม มอบความรู้สึกสบายและกว้างขวาง” แม็กซ์ กล่าว

หัวใจหลักของประสบการณ์การเชื่อมต่อบนฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ คือหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.1 หรือ 12 นิ้วตรงกลางคอนโซล เติมเต็มแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4 ระบบความบันเทิง และระบบแสดงข้อมูล ยิ่งกว่านั้นฟอร์ดยังติดตั้งโมเด็มมาในตัวเพื่อเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส ทำให้ลูกค้าเชื่อมต่อการสื่อสารกับรถได้ตลอดเวลา โดยฟอร์ดพาสจะช่วยยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถด้วยฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ทั้งการสตาร์ทรถจากระยะไกล ตรวจเช็คข้อมูลสภาพรถเบื้องต้น และสามารถล็อคและปลดล็อคจากระยะไกลได้ผ่านสมาร์ทโฟน

การควบคุมโหมดการขับขี่ต่างๆ ย้ายจากแผงหน้าปัดและคอนโซลเดิมมารวมอยู่ที่หน้าจอ SYNC เพียงปุ่มกดเดียว ผู้ขับขี่ก็จัดการโหมดการขับขี่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นทางเรียบหรือออฟโรดได้บนจอเดียว โดยสามารถควบคุมระบบขับเคลื่อน ดูองศาการเลี้ยว มุมเอียง มุมโคลง และข้อมูลอื่นๆ อีกมากมาย

หน้าจอดังกล่าวยังเชื่อมกับกล้อง 360 องศา ช่วยให้การจอดรถในเมืองหรือพื้นที่แคบเป็นเรื่องง่าย และช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบตัวรถระหว่างการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดได้ เทคโนโลยีบนฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ยังพร้อมรองรับการอัพเดตของซอฟต์แวร์ต่างๆ ในอนาคตผ่านโมเด็มที่ติดตั้งมากับรถ[ii]

“คุณจะเห็นได้ว่าฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ เป็นรถที่น่านั่ง และในขณะเดียวกันก็เหมาะสำหรับใช้ทำงานและพักผ่อน เกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter ใหม่ถูกจัดวางไว้ตรงกึ่งกลาง เป็นอีกตัวอย่างของการนำความคิดเห็นจากลูกค้ามาช่วยในการตัดสินใจของเรา” แม็กซ์ กล่าว “ลูกค้าชื่นชอบเกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter เป็นอย่างมาก เพราะให้ความรู้สึกล้ำสมัย และสามารถใช้งานง่าย”

ทีมออกแบบของฟอร์ดยังสร้างสรรค์พื้นที่จัดเก็บสัมภาระได้อย่างชาญฉลาด มอบความสะดวกสบายให้เจ้าของรถ นอกจากที่วางโทรศัพท์มือถือและแท่นชาร์จไร้สาย (ขึ้นอยู่กับตลาดที่วางจำหน่าย) ยังมีช่องขนาดใหญ่บริเวณกลางคอนโซลสำหรับเก็บของ ช่องเก็บของบริเวณประตูออกแบบมาให้เก็บของได้มากขึ้น ส่วนแผงหน้าปัดรถซ่อนลิ้นชักเก็บของไว้อย่างแนบเนียน พร้อมที่เก็บของเพิ่มเติมใต้และหลังเบาะหลังด้วย

ขึ้นกระบะท้ายได้ง่าย เพิ่มการใช้งานที่หลากหลาย

“เมื่อเราพบกับลูกค้าด้วยตัวเอง และเห็นพวกเขาปีนเพื่อขึ้นกระบะท้ายอย่างไร เราก็มองเห็นโอกาสที่จะพัฒนาการใช้งานของรถให้ดีขึ้นทันที” มร. แอนโธนี่ ฮอลล์ ผู้จัดการด้านวิศวกรรมเรนเจอร์ กล่าว “ลูกค้าบางคนเหยียบยางและข้ามขอบกระบะจากด้านข้างรถ หรือไม่ก็ต้องโหนตัวปีนขึ้นฝากระบะท้าย”

การสังเกตการใช้งานจริงของลูกค้าเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายในฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถขึ้นกระบะท้ายได้อย่างสะดวกสบายและมั่นใจ

ยิ่งไปกว่านั้น ทีมงานยังออกแบบการเก็บสัมภาระให้เป็นไปได้หลากหลายวิธีมากขึ้น เพื่อให้การบรทุกของทำได้อย่างลงตัวและปลอดภัย

“การที่รถกว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร อาจฟังดูเหมือนไม่มากนัก แต่ที่จริงแล้ว สิ่งนี้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมากสำหรับการใช้งานพื้นที่กระบะท้าย เพราะลูกค้าจะจัดวางของได้หลายอย่างในแนวราบ เช่น แผ่นไม้อัด หรือแท่นวางสินค้าทั้งแผ่น” แอนโธนี กล่าว

การออกแบบรถโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ยังครอบคลุมไปถึงยางปูพื้นท้ายกระบะเนื้อหนาที่ช่วยทั้งป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับพื้นกระบะ และปกป้องเข่าของเจ้าของรถไม่ให้เข่าต้องโดนพื้นที่ทำจากเหล็กโดยตรง ฟอร์ดติดตั้งหูยึดกระบะบริเวณราวเหล็กเพื่อให้คาดเชือกหรือผ้าใบยึดสัมภาระได้หนาแน่นมากขึ้น และยังมีวัสดุหุ้มขอบกระบะครอบคลุมทั้งด้านข้างและบนฝากระบะท้าย ซ่อนจุดยึดหลังคากระบะหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ไว้ด้านล่าง สำหรับลูกค้าที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์เสริมท้ายกระบะในภายหลัง

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ยังมีระบบจัดการการเก็บสัมภาระแบบใหม่ ที่ออกแบบมาให้มีที่กั้นเพื่อเก็บของได้หลายขนาด เช่น ท่อนไม้ หรือกล่องเครื่องมือ เจ้าของรถยังสามารถแบ่งกระบะท้ายให้เป็นช่องเล็กๆ เพื่อจัดเก็บของที่ปกติต้องเก็บในห้องโดยสาร โดยใช้หมุดสปริงที่มีความแข็งแรงพิเศษยึดกับราวเหล็กที่ขอบกระบะ ส่วนฝาปิดกระบะท้ายยังสามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะนั่งทำงานได้ โดยมีมาตรวัด และช่องยึดแคล้มป์อยู่ที่ฝากระบะท้ายสำหรับการวัดและตัดวัสดุต่างๆ

ระบบสั่งการเปิด-ปิดไฟภายนอกแบบแยกส่วนที่สามารถควบคุมได้ผ่านหน้าจอ SYNC หรือแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส มอบความสว่าง 360 องศารอบตัวรถเพื่อให้ลูกค้ามองเห็นได้ดีขึ้น และไฟส่องสว่างกระบะท้ายที่ติดตั้งอยู่ที่ใต้รางกระบะด้านซ้ายและขวา ช่วยให้มีแสงสำหรับทำงานหรือค้นหาสิ่งของในที่แสงน้อยหรือยามกลางคืน

ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า

เช่นเดียวกับความเอนกประสงค์ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ฟอร์ดมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคลมากขึ้น

“ลูกค้าของเราเล่าถึงความคาดหวังที่พวกเขามองหาจากประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถ นั่นคือการได้รับบริการที่สะดวกสบายในแบบที่พวกเขากำหนดได้เอง เราจึงตั้งใจที่จะนำเสนอบริการเช่นนั้น รวมถึงบริการเพิ่มเติมอีกมากมายให้กับลูกค้า” ไดแอน กล่าว

ฟอร์ดพร้อมมอบบริการหลังการขายที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ดังนี้

ฟอร์ดพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมงแบบ ‘พร้อมเสมอ (Always-On)’ ในกรณีที่มีคำถามเกี่ยวกับรถฟอร์ดหรือต้องการความช่วยเหลือ บริการผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับเจ้าของฟอร์ด เรนเจอร์ (Ranger Concierge) จะช่วยแนะนำลูกค้าในทุกประเด็นที่ลูกค้าต้องการทราบ
ฟอร์ดพาสเป็นแอปพลิเคชันที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อกับฟอร์ด เรนเจอร์ของตนเองได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านสมาร์ทโฟน โดยจะสามารถสตาร์ทรถจากระยะไกลได้ เพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิภายในรถจะเย็นสบายตามที่ต้องการเมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้าไปในรถ และสามารถรับการแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดเช็คระยะ
หากลูกค้ามีคำถาม หรือต้องการทราบเกี่ยวกับวิธีใช้ฟีเจอร์ล้ำสมัยของฟอร์ด เรนเจอร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แอปพลิเคชันฟอร์ดพาส ฟอร์ดก็มีโครงการ ‘เป็นเจ้าของเรนเจอร์อย่างมืออาชีพ’ หรือ ‘Master your Ranger’ ให้ลูกค้าได้รับคำแนะนำในหัวข้อที่ต้องการ
ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อการสื่อสารได้ตลอดเวลาเมื่ออยู่บนฟอร์ด เรนเจอร์ ผ่านระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC[iii]

หากลูกค้าต้องการรับบริการ หรือมีข้อสงสัยใดๆ ฟอร์ดพร้อมให้ความช่วยเหลือหลากหลายช่องทาง เช่น

· ผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับเจ้าของฟอร์ด เรนเจอร์ (Ranger Concierge) ที่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา

· บริการนัดหมายเข้ารับบริการออนไลน์ที่มอบความสะดวกสบายโดยผู้จำหน่ายฟอร์ดจะเข้ามารับรถเพื่อนำเข้าศูนย์บริการ และส่งคืนฟอร์ด เรนเจอร์ให้ลูกค้าถึงบ้าน หรือในกรณีที่ลูกค้าต้องการ ฟอร์ดยังสามารถให้ยืมฟอร์ด เรนเจอร์ ในระหว่างที่รถของลูกค้าอยู่ในศูนย์บริการ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

· ในอนาคต ฟอร์ดยังวางแผนที่จะพัฒนาซอฟต์แวร์บริการแบบอัปเดทอัตโนมัติ เพื่อให้ลูกค้าไม่จำต้องจองการเข้ารับบริการในบางประเภท ผ่านบริการ Ford Power-Up

“ด้วยบริการเหล่านี้ เราตั้งใจที่จะมอบความพร้อมในการดูแลลูกค้าแบบ ‘พร้อมเสมอ (Always-On)’ ได้ตลอดเวลา เมื่อใดก็ตามที่ลูกค้าต้องการ” ไดแอน กล่าว “นี่คือคำมั่นสัญญาที่เรามีให้ลูกค้าซึ่งเป็นเสมือนคนในครอบครัว เพราะฟอร์ดคือบริษัทครอบครัว และลูกค้าก็เป็นหนึ่งในครอบครัวของเรา”

อุปกรณ์เสริมให้เลือกตกแต่งรถตามสไตล์

ลูกค้าจะสามารถตกแต่งฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ตามสไตล์ ด้วยอุปกรณ์เสริมกว่า 600 ชิ้นที่ได้รับการยอมรับจากฟอร์ดโดยรายละเอียดอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ เพื่อให้ลูกค้าตกแต่งรถเพื่อการขับขี่ในเมืองและการผจญภัยได้ตามต้องการ รวมถึงชุดแต่งจาก ARB 4×4 Accessories ที่ฟอร์ดได้ร่วมมือกับแบรนด์ออฟโรดระดับโลกในการพัฒนาขึ้น ซึ่งมีวางจำหน่ายเฉพาะในบางประเทศ

ทั้งนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ จะผลิตที่โรงงานฟอร์ดในประเทศไทยและแอฟริกาใต้ โดยจะเริ่มผลิตในปี พ.ศ. 2565 ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการเปิดตัวของแต่ละประเทศจะมีการแจ้งในโอกาสต่อไป