ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ และ ฮอนด้า แอคคอร์ด กวาด 4 รางวัล จาก ASEAN NCAP Grand Prix Awards 2020

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จ ด้วยการคว้า 4 รางวัล มาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จาก ASEAN NCAP (ASEAN New Car Assessment Program) Grand Prix Awards 2020 ซึ่งเป็นการทดสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยของรถยนต์รุ่นใหม่ที่จำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ได้รับรางวัลอาเซียน เอ็นแคป ยอดเยี่ยม ในฐานะยนตรกรรมที่ผ่านการรับรองและรักษามาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวได้อย่างต่อเนื่องตลอด 3 เจเนอเรชัน (ASEAN NCAP Excellent Award – Consistent 5 Star) และ ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 10 ได้รับ 3 รางวัลมาตรฐานความปลอดภัยยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว (Best Safety Performance) ได้แก่ การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection: AOP) การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็ก (Child Occupant Protection: COP) และคะแนนรวมสูงสุดจากการทดสอบในภาพรวม (Overall)


ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ เจเนอเรชันที่ 5 ได้รับรางวัลอาเซียน เอ็นแคป ยอดเยี่ยม – การรักษามาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวต่อเนื่อง (ASEAN NCAP Excellent Award – Consistent 5 Star)


โดยสามารถคงมาตรฐานความปลอดภัยได้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เจเนอเรชันที่ 3 ถึงเจเนอเรชันที่ 5 ในปัจจุบัน โดยฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชันที่ 5 ที่นำไปใช้ในการทดสอบ เป็นรถยนต์รุ่นที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 และนับตั้งแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการ สามารถครองยอดขายได้กว่า 38,000 คัน (ข้อมูลยอดขายถึงเดือน มกราคม 2564) อีกทั้งครองตำแหน่งผู้นำด้วยยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์อีโค-ซับคอมแพคท์ และ ซับคอมแพคท์ของประเทศไทยในปี 2563 ตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นซิตี้คาร์ยอดนิยมที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าชาวไทย ด้วยการคว้ารางวัลจากอีกหลากหลายสถาบันยานยนต์ ได้แก่ รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2563 ประเภทซีดานเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,000 ซีซี (Car of the Year 2020) และรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมแห่งปี 2563 ด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็ก (TAQA: Thailand Automotive Quality Awards 2020)

ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเทอร์โบเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ
12 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร และอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร ครบครันด้วยมาตรฐานความปลอดภัย* อาทิ ถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะ เข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS) และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) อีกทั้งได้รับการออกแบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON


ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 10 ได้รับ 3 รางวัลมาตรฐานความปลอดภัยยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว (Best Safety Performance) จากการทดสอบการชนในส่วนการปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection: AOP) การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็ก (Child Occupant Protection: COP) และได้รับคะแนนรวมสูงสุดจากการทดสอบในภาพรวม (Overall)

โดย ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 10 รุ่น TURBO EL ที่นำไปใช้ในการทดสอบ เป็นรถยนต์ที่ผลิต
ในประเทศไทย ซึ่งได้เปิดตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ตามมาด้วยอีก 6 ประเทศในภูมิภาค และประสบความสำเร็จในประเทศไทยด้วยการคว้ารางวัลรถยนต์
ยอดเยี่ยมประเภทซีดานขนาดกลาง เครื่องยนต์ไม่เกิน 1,800 ซีซี (Car of the Year 2019) และครองยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์ซีดานขนาดกลางประจำปี 2563 ตอกย้ำการเป็นยนตรกรรมพรีเมียมซีดานที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน


มั่นใจยิ่งขึ้นในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยแบบเต็มรูปแบบใน ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่น ไฮบริด กับ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)
ที่ผสานการทำงานของเรดาร์กับกล้องด้านหน้าในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนและช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ประกอบด้วย


• ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

ผสานด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยระดับพรีเมียม* เช่น ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-View Camera System: MVCS) ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor: CTM) ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System)

ครบครันด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอันล้ำสมัยอื่นๆ* อาทิ ถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist: VSA) ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold และ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) อีกทั้งได้รับการออกแบบตัวถังนิรภัยด้วยเทคโนโลยี ACE (Advanced Compatibility Engineering) ที่ใช้โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ G-CON (G-Force Control) เพื่อความปลอดภัยอย่าง
สมบูรณ์แบบ

ฮอนด้า จะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์พัฒนาเทคโนโลยีและยนตรกรรมที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ครบครันทั้งเทคโนโลยีด้านการขับขี่และด้านความปลอดภัย เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยม ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นใจและปลอดภัยในทุกการเดินทางสำหรับผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการสร้างสังคม
ปลอดอุบัติเหตุให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ของฮอนด้าปี 2030

*อุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยแตกต่างกันในแต่ละรุ่นและประเทศนั้น ๆ

#